“คนไข้มาคลินิกที่ดูแลเรื่องเส้นผมก็เพราะว่ามีปัญหา และรับการรักษาเกี่ยวกับเส้นผม” ประโยคนี้อาจไม่ได้แปลกอะไร แต่ในความเป็นจริงปัญหาเส้นผมไม่ได้เริ่มต้นจากที่เส้นผมเสมอไป ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงที่มีผมร่วงหลังการคลอดลูกนั้นเป็นเพราะว่ามีปัญหาที่เส้นผมหรือเปล่า ซึ่งคำตอบก็คือไม่
เส้นผมเป็นโครงสร้างที่ต้องการพลังงานในปริมาณมากในการมีชีวิต และคงกระบวนการต่างๆ ภายในเซลล์ให้เป็นปกติ ก็เป็นเพราะว่าเส้นผมที่ส่วนที่มีการเจริญเติบเติบอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีความต้องการวิตามิน แร่ธาตุ ฮอร์โมน และสารต่างๆ มากมาย ฉะนั้นถ้าเกิดความผิดปกติบางอย่างกับร่างกายที่กระทบ ทำให้ระดับพลังงานสะสมในร่างกายลดน้อยลงหรือผิดปกติไป เส้นผมก็เป็นโครงสร้างที่จะได้รับผลกระทบเป็นอันดับต้นๆ แน่นอน ทำให้ปัญหาผมร่วงสามารถเป็นอาการแสดงเริ่มต้นของปัญหาต่างๆ ได้
ฮอร์โมนในร่างกายที่ไม่สมดุลเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมร่วงที่พบได้บ่อย โดยฮอร์โมนที่ทำให้เกิดปัญหาผมบางนอกเหนือจาก DHT (Dihydrotestosterone) และฮอร์โมนเพศชายตัวอื่นๆ ได้แก่ ไทรอยด์ฮอร์โมน เอสโตรเจน โกรธฮอร์โมน อินซูลิน โปรแลคติน คอร์ติซอล เป็นต้น ซึ่งตัวที่เป็นปัญหาได้บ่อยๆ คือ ไทรอยด์ฮอร์โมน และคอร์ติซอล
ไทรอยด์ฮอร์โมนนั้นเชื่อว่ามีบทบาทในการควบคุมวงจรชีวิตของเส้นผม โดยในภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำทำให้ระยะงอกยาวของเส้นผมสั้นลง มีสัดส่วนของระยะพักนานขึ้น ในขณะที่ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูงก็สามารถพบปัญหาผมร่วงได้ ในส่วนของฮอร์โมนคอร์ติซอลที่มาจากความเครียดทำให้เกิดผมร่วงตามมา ซึ่งความสัมพันธ์นี้อาจจะยังไม่มีข้อมูลการศึกษาที่ชัดเจนมากนัก คาดกันว่าฮอร์โมนคอร์ติซอลมีผลต่อวงจรชีวิต และยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นผม
โลหะหนัก เช่น ตะกั่ว แคดเมียม ปรอท และอะลูมิเนียม ต่างก็มีผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมเช่นกัน ซึ่งโลหะหนักต่าง ๆ เหล่านี้จะเข้าไปรบกวนการทำงานของฮอร์โมนและสารอาหารผ่านการสร้างอนุมูลอิสระ ที่สามารถนำไปสู่การทำลายเซลล์รากผมจนทำให้มีปัญหาผมร่วงและมีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติได้
สำหรับการแก้ปัญหาจากต้นเหตุทั้งสองอย่างข้างต้น ทางศูนย์ของเราได้มีการออกแบบการรักษาที่ไม่ใช่แค่การรักษาเพื่อบรรเทาอาการ แต่จะเข้าจัดการต้นเหตุโดยตรง คือ ปัญหาฮอร์โมนที่ไม่สมดุลก็เริ่มที่การตรวจเช็คระดับฮอร์โมน เพื่อหาฮอร์โมนที่เป็นปัญหาแล้วแก้ไขให้ตรงจุด โดยอาจมีการส่งต่อให้อายุรแพทย์ต่อมไร้ท่อดูแลต่อไป ในส่วนของปัญหาโลหะหนักในร่างกายก็เริ่มต้นที่การตรวจหาโลหะหนักที่เป็นต้นเหตุ และทำการกำจัดออกจากร่างกายด้วยการรักษาที่เรียกว่าคีเลชั่นต่อไป ด้วยกระบวนการรักษาเหล่านี้ ทำให้ศูนย์ของเราสามารถตรวจหาและแก้ไขปัญหาผมร่วงได้อย่างครอบคลุมอย่างเป็นองค์รวม
ปกติเราจะดูแลผิวพรรณโดยใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เป็นประจำ แต่เรามักจะลืมผิวหนังที่อยู่ภายใต้เส้นผม ซึ่งก็คือหนังศีรษะ ที่มักจะถูกดูแลทำความสะอาดและให้ความชุ่มชื่นที่ไม่เหมาะสมนัก ส่งผลให้มักจะเกิดอาการ เช่น คันหนังศีรษะ มีสะเก็ดแห้ง ผมเส้นเล็กลีบ ผมร่วง และอาจถึงขั้นเป็นสาเหตุการล้านของศีรษะได้อีกด้วย ทาง Hair wellness center ของเราจึงได้แสวงหาเทคโนโลยีที่ดีที่สุดที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ เราได้พบว่า มีเทคโนโลยีที่ดีมากถึงขั้นได้รับรางวัลการันตีนั้นก็คือ Hydrafacial Keravive®.
Hydrafacial® เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ดูแลได้ทั้งร่างกาย
และเป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้อย่างสบาย ไม่เจ็บ และทำให้ซึมผ่านของสารที่ต้องการลงสู่ผิวหนังได้อย่างล้ำลึก และยาวนาน Hydrafacial® เป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้เกิดความชุ่มชื่น ภายในเวลาเพียง 30 นาที แต่คงผลลัพธ์ที่ยาวนาน เห็นผลทันที และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นหลังทำอีกด้วย
กระตุ้นและเปิดรูขุมขนของเซลล์รากผมบนหนังศีรษะ
ใช้แสงกระตุ้น ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรกต่างๆออกจากหนังศีรษะ
เติมรูขุมขนและผิวหนังรอบข้างด้วยสาร peptides และความชุ่มชื่น
เสมือนว่าได้อาบหนังศีรษะด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด แล้วเติมน้ำให้ผิวด้วยเซรั่มที่ชุ่มชื่น การใช้เครื่องนี้ส่งผลให้รู้สึกสดชื่น สะอาด ไม่เจ็บไม่ระคายเคืองและเห็นผลลัพธ์ทันทีอีกด้วย
Hydrafacial Keravive®. เติมให้หนังศีรษะด้วย วัตถุดิบที่ทำงานผสมผสานกันได้อย่างดี เพื่อปรับให้แบคทีเรียบนหนังศีรษะ ให้คงสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการเจริญงอกงามของ
เส้นผม วัตถุดิบเหล่านั้น เช่น Niacinamide ให้ผลในการป้องกันจากสิ่งแวดล้อมที่จะทำลายผิวหนังและเซลล์รากผม Keravive Peptide Complex เป็นสารที่ผสมระหว่างสารให้ความชุ่มชื่นและ Growth factors
ส่งผลให้ผมแข็งแรงสุขภาพดี vitamin B5 และ arginine จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่นและฟื้นฟูหนังศีรษะและเส้นผม
Hydrafacial Keravive®. จะให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นโดยภาพรวมในทุกๆด้าน ผมดูหนาขึ้น ผมดูเงามีสุขภาพดี ปัญหาหนังศีรษะ เช่น คัน แห้ง เป็นขุยก็จะหายไป กว่าครึ่งของผู้รับบริการรู้สึกได้ถึงผลลัพธ์ที่ดีหลังทำเพียงแค่ครั้งเดียว แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแนะนำให้ทำเดือนละ 1 ครั้งต่อเนื่องกัน 3 เดือน
Hydrafacial Keravive®. ใช้เสริมการรักษาหลังจากวิธีการรักษาอื่นได้เช่น การปลูกผม และยังใช้กับเส้นผมได้ทุกลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นผมเปีย ผมผ่านการย้อมสี ผมที่ถูกดัดหรือยืดมา เป็นต้น