เทคนิคนี้จะใช้การเจาะเอารากผมที่แข็งแรงที่สุด จากบริเวณท้ายทอยที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมน DHT มาทำการปลูกผม ซึ่งเทคนิคนี้ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว เหมือนวิธีการปลูกผมแบบ FUT แบบดั้งเดิม ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการปลูกผมเทคนิค FUE นั้นเส้นผมจะมีความหนาแน่น และดูเป็นธรรมชาติมากกว่า โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด เมื่อปลูกผมเสร็จก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติได้รวดเร็วขึ้น และไม่ต้องมีแผลเป็นบริเวณศีรษะนั่นเอง
DHI (Direct Hair Implantation) เป็นการปลูกผมถาวรด้วยเทคนิค FUE ประเภทหนึ่ง ซึ่งก็คือ มีขั้นตอนการเจาะนำกราฟต์ที่บริเวณท้ายทอย (Donor Area) ออกมาเช่นเดียวกัน แต่ในขั้นตอนการปลูก หากเป็นเทคนิค FUE แบบดั้งเดิมนั้น แพทย์จะต้องใช้เข็มเจาะลงไปบนหนังศีรษะก่อนเพื่อให้เกิดรู แล้วจึงใช้ forceps คีบกราฟต์ผมมาปักลงไปในรอยเจาะนั้น แต่หากเป็นเทคนิค DHI สามารถปัก และปลูกผมทีละเส้นได้ภายในครั้งเดียว ด้วยเครื่องมือเฉพาะที่ชื่อว่า DHI Implanter
เทคนิคนี้จะใช้การเจาะเอารากผมที่แข็งแรงที่สุด จากบริเวณท้ายทอยที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมน DHT มาทำการปลูกผม ซึ่งเทคนิคนี้ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว เหมือนวิธีการปลูกผมแบบ FUT แบบดั้งเดิม ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการปลูกผมเทคนิค FUE นั้นเส้นผมจะมีความหนาแน่น และดูเป็นธรรมชาติมากกว่า โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด เมื่อปลูกผมเสร็จก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติได้รวดเร็วขึ้น และไม่ต้องมีแผลเป็นบริเวณศีรษะนั่นเอง
DHI (Direct Hair Implantation) เป็นการปลูกผมถาวรด้วยเทคนิค FUE ประเภทหนึ่ง ซึ่งก็คือ มีขั้นตอนการเจาะนำกราฟต์ที่บริเวณท้ายทอย (Donor Area) ออกมาเช่นเดียวกัน แต่ในขั้นตอนการปลูก หากเป็นเทคนิค FUE แบบดั้งเดิมนั้น แพทย์จะต้องใช้เข็มเจาะลงไปบนหนังศีรษะก่อนเพื่อให้เกิดรู แล้วจึงใช้ forceps คีบกราฟต์ผมมาปักลงไปในรอยเจาะนั้น แต่หากเป็นเทคนิค DHI สามารถปัก และปลูกผมทีละเส้นได้ภายในครั้งเดียว ด้วยเครื่องมือเฉพาะที่ชื่อว่า DHI Implanter
เทคนิคนี้จะใช้การเจาะเอารากผมที่แข็งแรงที่สุด จากบริเวณท้ายทอยที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมน DHT มาทำการปลูกผม ซึ่งเทคนิคนี้ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว เหมือนวิธีการปลูกผมแบบ FUT แบบดั้งเดิม ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการปลูกผมเทคนิค FUE นั้นเส้นผมจะมีความหนาแน่น และดูเป็นธรรมชาติมากกว่า โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด เมื่อปลูกผมเสร็จก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติได้รวดเร็วขึ้น และไม่ต้องมีแผลเป็นบริเวณศีรษะนั่นเอง