dhi Hair transplant

สำหรับคนที่มีปัญหาศีรษะล้านเถิก การที่จะทำให้บริเวณนั้นกลับมามีผมใหม่อีกครั้ง สามารถทำได้ด้วยการ ปลูกผมถาวร แบบย้ายรากผม ชื่อว่าวิธี “Follicular Unit Excision” หรือที่เรียกกันอย่างสั้น ๆ ว่า “FUE” ถูกคิดค้นตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980 เป็นการนำรากผมทั้งกอจากบริเวณด้านหลังศีรษะ ซึ่งเป็นบริเวณที่ได้รับอิทธิพลของฮอร์โมน DHT น้อยกว่าบริเวณอื่น (DHT คือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน) มาปลูกใหม่ยังบริเวณที่ต้องการ ซึ่งวิธีการปลูกผมแบบนี้ สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย ขึ้นอยู่กับว่า ผู้นั้นมีเส้นผมบริเวณท้ายทอยเพียงพอหรือไม่

Direct Hair
Implantation (DHI)

เมื่อคุณพบว่าปัญหา “ศีรษะล้าน เถิก บาง” นั้นกลายเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าที่จะ “ปกปิด” หรือแม้กระทั่งการใช้ผลิตภัณฑ์ปลูกผมใด ๆ ก็ไม่ช่วยให้เส้นผมของคุณกลับมาดกดำและดูดีเป็นธรรมชาติเหมือนเดิมได้ การปลูกผมถาวรจึงถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ที่จะทำให้คุณได้ผมจริง ๆ ที่แข็งแรง และจะอยู่คุณไปถาวร ซึ่งถ้าหากคุณค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการปลูกผมถาวรก็จะพบข้อมูลมากมายเกี่ยวกับการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE (Follicular Unit Excision) และ FUT (Follicular Unit Transplantation) แต่ถ้าค้นให้ลึกและไกลกว่านั้น คุณจะได้พบกับเทคนิคการปลูกผมถาวรที่มีชื่อว่า DHI (Direct Hair Implantation)

DHI (Direct Hair Implantation) เป็นการปลูกผมถาวรด้วยเทคนิค FUE ประเภทหนึ่ง ซึ่งมีขั้นตอนการเจาะนำกราฟต์ที่บริเวณท้ายทอย (Donor Area) ออกมาเช่นเดียวกัน แต่ในขั้นตอนการปลูก หากเป็นเทคนิค FUE แบบดั้งเดิมนั้น แพทย์จะต้องใช้เข็มเจาะลงไปบนหนังศีรษะก่อนเพื่อให้เกิดรู แล้วจึงใช้ forceps คีบกราฟต์ผมมาใส่ลงไปในรูเจาะนั้น ในขณะที่เทคนิค DHI สามารถปักและปลูกผมทีละเส้นได้ภายในครั้งเดียว ด้วยเครื่องมือเฉพาะที่ชื่อว่า DHI Implanter

ขั้นตอนการปลูกผมเทคนิค DHI HAIR TRANSPLANT

ขั้นตอนที่ 1 : การเตรียมความพร้อมสำหรับการปลูกผม

แพทย์จะทำการตัดแต่ง หรือโกนผมบริเวณศีรษะด้านหลัง ที่เราเรียกว่า Donor Area ซึ่งเป็นบริเวณที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมน DHT เพื่อความสะดวกในการเจาะนำกราฟต์ผมออกมา หลังจากนั้นจึงฉีดยาชา คุณจะยังคงรู้สึกตัวตลอดเวลาในระหว่างการปลูกผม แต่ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด

ขั้นตอนที่ 2 : การเจาะเพื่อดึงเซลล์รากผม

หลังจากยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะใช้หัวเจาะแบบพิเศษ ที่มีขนาดเล็กมากเพียง 0.6 – 0.8 มิลลิเมตร เจาะเพื่อนำรากผมออกมาอย่างระมัดระวัง โดยไม่ไปกระทบกระเทือนกราฟต์ผมและเซลล์รากผมโดยรอบให้ได้รับความเสียหาย

ขั้นตอนที่ 3 : การตกแต่งกราฟต์

ทีมแพทย์จะต้องทำการตกแต่งกราฟต์ผมที่ได้อย่างระมัดระวัง และคัดแยกกราฟต์ที่มีจำนวนเส้นผมในกอต่างกัน เพื่อนำไปใช้ปลูกในบริเวณที่แตกต่างกัน โดยแช่ไว้ในน้ำยาแช่กราฟต์ที่มีสูตรเฉพาะที่จะช่วยเพิ่มอัตราการอยู่รอด และเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตของกราฟต์ผม

ขั้นตอนที่ 4 : การฝังกอผม (กราฟต์)

เมื่อถึงขั้นตอนการปลูก กราฟต์ที่ตกแต่งเรียบร้อยจะถูกนำไปใส่ในอุปกรณ์ DHI Implanter และแพทย์จะนำ Implanter นี้ไปปักและปลูกยังบริเวณที่ต้องการได้เลย นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดทิศทาง-องศาในการปักได้อย่างแม่นยำ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากกว่าเทคนิค FUE ดั้งเดิม

หลังจากที่ปลูกเสร็จแล้ว เราจะทำการปิดแผล และใส่หมวกคลุมให้กับคนไข้ ช่วยป้องกันไม่ให้กราฟต์กระทบกระเทือนในวันแรก และในวันถัดไปให้กลับเข้ามาอีกครั้งเพื่อทำการล้างแผลเป็นอันเสร็จสิ้น และเข้ามาตามนัดเป็นระยะเพื่อติดตามผลในช่วง 1 ปีแรก

Direct Hair Multi-Implantation (DHMI)

ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีการปลูกผมอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยให้การปลูกผมเป็นหัตถการที่มีความง่ายมากขึ้น ขณะที่ยังคงให้ผลลัพธ์การปลูกผมที่ดีเช่นเดิมหรือดียิ่งกว่า จึงเกิดเทคนิคการปลูกผม DHMI (Direct Hair Multi-Implantation) ขึ้นมา

เทคนิคการปลูกผม DHMI มีขั้นตอนพื้นฐานต่าง ๆ เช่นเดียวกับการปลูกผมด้วยเทคนิค DHI ไม่ว่าจะเป็นการตัดโกนผมเพื่อเตรียมก่อนการปลูก การฉีดยาชา การเก็บ และปลูกกราฟต์ผม แต่ความพิเศษจะอยู่ในช่วงการลงปลูกกราฟต์ผมที่มีการใช้อุปกรณ์ชนิดพิเศษที่เรียกว่า Direct Hair Multi-Implanter หรือ DHMI ที่สามารถปลูกผมพร้อมกันได้ถึง 10 กราฟต์ในแต่ละครั้ง ทำให้ระยะเวลาในการปลูกผมสั้นลง ลดระยะเวลาที่กราฟต์ผมต้องอยู่ภายนอกร่างกาย ส่งผลให้มีอัตราการรอดชีวิตของกราฟต์ผมสูงขึ้นนั่นเอง ทั้งนี้ก็ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญของทีมแพทย์ด้วยเช่นกันในการใช้อุปกรณ์ชนิดนี้ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม และเป็นธรรมชาติ

DHIv HAIR TRANSPLANT

HIV คืออะไร? ต่างกับ AIDS อย่างไร?

HIV (Human Immunodeficiency Virus) คือ เชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะค่อย ๆ เข้าทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์ (Lymphocyte) โดยในระยะแรกจะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาเลย ผู้ที่ติดเชื้อจึงไม่รู้ตัวว่าได้รับเชื้อไวรัสนี้ตั้งแต่เมื่อไร แต่เมื่อเวลาผ่านไปอาจนานถึง 10 ปีตั้งแต่ได้รับเชื้อจนถึงจุดที่ร่างกายมีเม็ดเลือดขาวตัวดังกล่าวข้างต้นน้อยเกินกว่าที่จะกำจัดเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้ ทำให้มีการติดเชื้อตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายง่ายกว่าปกติ ซึ่งเมื่อมาถึงจุดนี้จะเรียกว่าภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือโรคเอดส์ (Acquired Immunodeficiency Syndrome; AIDS) ดังนั้นเชื้อไวรัส HIV เป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่โรคเอดส์นั่นเอง

ด้วยความพัฒนาทางการแพทย์ในปัจจุบัน ทำให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV สามารถใช้ชีวิตได้ปกติเช่นเดียวกับคนทั่วไปตราบเท่าที่ยังดูแลสุขภาพและทานยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการที่ติดเชื้อ HIV ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่เป็นเหมือนโรคเรื้อรังประเภทหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยติดเชื้อ หรือผู้ป่วยทั่วไปก็ยังได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน DHT อันเป็นสาเหตุของศีรษะล้าน-เถิกทั้งนั้น ดังนั้น BEQ Hair Center จึงได้ออกแบบเทคนิคการปลูกผมเพื่อผู้ป่วยที่อาจติดเชื้อง่ายขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งก็คือการปลูกผมเทคนิค DHIv

การเตรียมความพร้อมสำหรับปลูกผม

ก่อนการปลูกผม ผู้ป่วยในกลุ่มนี้ควรมีการเตรียมความพร้อมของร่างกายเพื่อให้มีโอกาสเกิดปัญหาบาดแผลติดเชื้อให้น้อยที่สุด โดยทางการแพทย์จะมีการตรวจเลือดสองอย่างในการประเมินในส่วนนี้ คือ ค่าเม็ดเลือดขาว CD4 Count และค่า Viral load (VL)

ค่าเม็ดเลือดขาว CD4 Count หมายถึง ปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์ชนิดหนึ่งที่ถูกทำลายโดยเชื้อ HIV ดังนั้นค่า CD4 Count ยิ่งมีมากก็ยิ่งดีครับ

Viral Load (VL) หมายถึง จำนวนไวรัส HIV ในกระแสเลือด ดังนั้นยิ่งน้อยก็จะยิ่งดี โดยควรมีค่าเป็น Undetectable หรือก็คือน้อยกว่า 20 ตัวต่อเลือด 1 CC ตามหน่วยของแต่ละห้องปฏิบัติการที่ตรวจ

DHIv อีกระดับสำหรับการปลูกผม

DHIv เป็นเทคนนิคที่ BEQ Hair Center ได้พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสำหรับผู้ติดเชื้อไม่เพียงเฉพาะการติดเชื้อ HIV เท่านั้น แต่ยังคงรวมถึงโรคติดเชื้ออื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคไวรัสตับอักเสบเอหรือบี ด้วยเทคนิคนี้จะลดเลือดที่ไหลออกมากกว่าเทคนิค DHI ปกติ และใช้เวลาในการปลูกผมน้อยลงกว่าเดิมเพื่อลดโอกาสติดเชื้อ นี่คือนวัตกรรมที่อาศัยเทคโนโลยีเข้ามาทำให้ไม่มีปัญหาต่อผลลัพธ์ที่จะได้ ที่มากไปกว่านั้นอุปกรณ์ทางแพทย์ที่ใช้ปลูกผมทั้งหมดจะต้องทิ้งหลังปลูกผมเสร็จทันที ดังนั้นมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นเป็นอุปกรณ์ใหม่สำหรับเคสคนไข้คนนั้นเท่านั้น  สำหรับผู้ป่วยที่ง่ายต่อการติดเชื้อแล้ว มั่นใจได้ว่าการปลูกผมเทคนิค DHIv จะเป็นการปลูกผมที่เข้าใจ และเอาใจใส่ผู้ป่วยติดเชื้อโดยเฉพาะตั้งแต่ก่อนปลูกผมจนเสร็จสิ้นกระบวนการแน่นอน

ความพิเศษของการปลูกผมด้วยเทคนิค DHIv

สำหรับการปลูกผมด้วยเทคนิค DHIv ทาง BEQ Hair Center ได้ศึกษาและวางแผนตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา จนมั่นใจว่า เทคนิค DHIv สามารถตอบโจทย์ของคนไข้ด้วย 4 ความพิเศษต่อไปนี้

เจาะกราฟต์ผมด้วยหัวเจาะพิเศษ

การปลูกผมเป็นหัตถการที่มีการสร้างบาดแผลหลักหลายพันแผล ดังนั้นเราจึงคำนึงถึงความเสี่ยงของแผลอักเสบติดเชื้อเป็นหลัก จึงได้มีความพยายามลดเลือดที่คนไข้จะเสียไป และลดเวลาที่ใช้ในการทำหัตถการ ดังนั้นเราจึงเลือกใช้หัวเจาะพิเศษขนาดเล็กที่สุด ที่เล็กกว่าหัวเจาะ DHI ทั่วไปร้อยละ 30 และเล็กกว่าหัวเจาะ FUE ถึง 1 เท่าตัว นอกจากนี้หัวเจาะยังต้องมีความคม และความบางเป็นพิเศษ เพื่อที่จะทำให้แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นน้อย ที่สำคัญยังปรับขนาดให้พอดีสำหรับกราฟต์ผมของแต่ละคน ที่ BEQ Hair Center เรามีหัวเจาะเฉพาะสำหรับกราฟต์ผมหลากหลายขนาดที่จะทำให้แผลที่เกิดนั้นเล็กที่สุดที่จะสามารถทำได้

น้ำยาคงสภาพกราฟต์สูตรพิเศษ

น้ำยาแบบพิเศษ ที่มีความเข้มข้นกว่าสูตรปกติร้อยละ 40 นอกจากทำให้ช่วยยืดอายุกราฟต์ผมแล้ว ยังออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของเซลล์รากผม ทำให้อัตราการอยู่รอดของกราฟต์ผมมีมากขึ้น

ปลูกผมด้วยอุปกรณ์แบบใหม่

น้ำยาสมานแผลสูตรเฉพาะ

น้ำยาแบบพิเศษ เพิ่มความไวในการสมานตัวของแผล กระตุ้นเซลล์ให้รักษาตัวเอง ทำให้แผลหายไวกว่าปกติ 1 เท่าตัว จึงเป็นสิ่งที่เหมาะกับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังจากปลูกผมแล้วเป็นอย่างมาก

 

จุดเด่นปลูกผมเทคนิค DHI HAIR TRANSPLANT

"ผลลัพธ์สมบูรณ์กว่า"

เครื่องมือเฉพาะ ในการปัก และปลูกภายมคนครั้งเดียว จึงสามารถควบคุมความลุก และทิศทางได้ดีกว่า ทำให้ดูเนียน เป็นธรรมชาติ

"ไม่เกิดรอยแผลเป็น"

การปลูกผมด้วยเทคนิค DHI ไม่มีการผ่าตัด แผลหายไว แทบไม่ต้องพักฟื้น หลังจากปลูกผมเสร็จ แผลเล็กจนแทบมองไม่เห็น

"เห็นผลลัพธ์ทันที"

เห็นแนวไรผม หลังจากปลูกเสร็จทันที ดูแลง่าย ไม่มีผลกระทบระยะยาว

ทำไมต้องปลูกผมที่ BEQ Hair Center

การออกแบบ และวาดแนวผมใหม่ หากปราศจากความเข้าใจในธรรมชาติของอาการผมร่วง อาจส่งผลให้เกิดการฟื้นฟูสภาพผมที่ไม่ดีเท่าที่ควร การมีวิจิตรศิลป์ และประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ผม “นายแพทย์ ดนัย ธรรมภิบาล” สามารถออกแบบแนวทรงผมของคุณให้เป็นการฟื้นคืนสภาพผมอย่างแท้จริง

“นายแพทย์ ดนัย ธรรมภิบาล” เป็นผู้ริเริ่มค้นหาวิธีเพื่อทำความเข้าใจว่าแนวทรงผมสามารถแยกออกเป็น 2 หรือ 3 ทางเลือก และรู้ว่าจะต้องออกแบบอย่างไรให้ทรงผมของคุณดูดีในแบบของตัวคุณเอง การนำทั้งศาสตร์ และศิลป์มาใช้ในการออกแบบโดยคำนึงถึงหลักโหงวเฮ้ง และความเป็นธรรมชาติ การออกแบบให้เหมาะสมกับอายุ เพศ ระยะผมร่วง เชื้อชาติ ลักษณะใบหน้า รูปทรงของศีรษะ

การปลูกผมถาวรแบบปิดเป็นการเจาะกราฟต์ผมอย่างระมัดระวัง พร้อมทั้งป้องกันเส้นประสาท และเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยง ในขณะที่มุ่งมั่นในการเจาะกราฟต์ผมให้ได้ปริมาณมากที่สุด เรายังต้องคำนึงถึงความสมดุล และหลักการฟื้นคืนสภาพของเส้นผมบริเวณที่ถูกย้ายรากออกไป ด้วยเทคนิค และคุณสมบัติพิเศษของเทคโนโลยีที่เรานำเข้ามาใช้ จะทำให้แผลหายเร็ว และสมบูรณ์ดังเดิมเหมือนไม่เคยผ่านการถูกเจาะมาก่อน

การเจาะกราฟต์ผมทีมของเราไม่เคยต้องจ้างบุคคลภายนอกเลย นั้นหมายความว่าคุณมีกลุ่มคนที่มีความรู้เฉพาะทาง มีความละเอียดรอบครอบ และใส่ใจในการปลูกผม โดยปราศจากความเจ็บปวดและผิดหวัง แต่ได้ทรงผมที่ทันสมัย และเป็นไปตามความต้องการของคุณสิ่งนี้ช่วยลดโอกาสเกิดผลลัพธ์ที่เลวร้ายในการปลูกผมให้น้อยที่สุด

บริเวณที่ปลูกผม มุมมอง และทิศทางของทรงผมที่สมบูรณ์แบบรวมถึงการเจาะกราฟต์ผมที่เหมาะสม เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้การปลูกผมใหม่ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ นั้นหมายความว่าทุก ๆ บริเวณที่ปลูกผมต้องทำด้วยความสมบูรณ์แบบจากใจ

การจัดแนวผม และการปักกราฟต์ที่ลึกเกินไปเป็นสาเหตุของการเกิดหลุมได้ หากจัดวางตื้นเกินไปสามารถทำให้เกิดก้อนกลม ๆ ลักษณะคล้ายหินหรือการเติบโตของผมแบบขดตัวหรือเส้นผมไม่เติบโตเลย ทีมงานที่มีประสบการณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย จะช่วยทำให้คุณมั่นใจได้ว่าเหตุการณ์เลวร้ายเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น

REVIEW